112 Views Report Error
สิ่งที่เห็นอาจไม่เป็นอย่างที่คิด เมื่อหญิงสาวที่เริ่มไม่แน่ใจในความสัมพันธ์กับแฟนหนุ่มคนใหม่ได้ตกลงเดินทางติดรถฝ่ายชายเพื่อไปเยี่ยมพ่อแม่ของเขาที่บ้านไร่ไกลปืนเที่ยง
อยากให้เธออยู่ดูตอนจบด้วยกันมนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ถูกสาปให้ต้อง ‘คิด’ และไม่ใช่แค่คิดเรื่องที่ต้องทำในตอนนี้ เรามักคิดถึงอดีต คาดหวังถึงอนาคต เลยเถิดจนจินตนาการไปไกล ไกลเกินกว่าความเป็นจริงเสียอีกวนกลับมาถามตัวเองซ้ำๆ ว่า เมื่อไหร่จะหยุดคิดสักทีความคิดและจินตนาการของมนุษย์จึงเป็นเหมือนสิ่งที่ ชาร์ลีคอฟแมน (Charlie Kaufman) พยายามจะจำลองออกมาให้เห็นในเรื่อง I’m Thinking of Ending Things หนังที่เล่าถึงการเดินทางของหญิงสาวเพื่อไปพบปะและทานมื้อเย็นกับพ่อแม่ของชายที่กำลังคบหาอยู่ในหัวเธอมีแต่ความคิด “ฉันคิดว่าจะเลิก” อยู่ตลอดเวลา ทว่าไม่พูดมันออกไปI’m Thinking of Ending Thingsดัดแปลงมาจากนิยายในชื่อเดียวกันของ อิเอน รีด (lain Reid) ตัวหนังสือถูกจัดอยู่ในหมวดจิตวิทยาสยองขวัญที่ได้ยินแล้วรู้เลยว่าต้องปั่นป่วนอารมณ์และหลอกหลอนจิตใจคนอ่าน พอนิยายที่สะเทือนขวัญอยู่แล้วมาอยู่ในมือของ ชาร์ลี คอฟแมน ผู้กำกับหนังแนวเหนือจริง (surreal) ที่เคยฝากผลงานอย่าง BeingJohn Malkovich KSD Eternal Sunshine of the Spotless Mind เอาไว้ ก็ไม่แปลกเลยที่คนดูจะต้องพบเจอกับประสบการณ์ดูหนังอันท้าทายความท้าทายเริ่มตั้งจอขนาดยาวที่เคยชินถูกบีบสเกลให้เล็กลงเหลือแค่ 4:3 เรื่องราวการเดินทางที่ดูจะเรียบง่ายกลับถูกเล่าอย่างไม่ปะติดปะต่อ การเรียงลำดับเหตุการณ์ดูห่างจากความเป็นจริงที่ควรจะเป็น แทนที่ในเรื่องจะมีแค่หญิงสาวและครอบครัวฝ่ายชาย อยู่ดีๆ บางช่วงบางตอนก็มีซีนภารโรงแก่ๆ แทรกเข้ามา บรรยากาศในเรื่องก็มีแต่หิมะหนาวเหน็บชวนหดหู่ความอึดอัดและสับสนทำให้ I’m Thinking of Ending Things เป็นหนังที่เรียกร้องความพยายามจากคนดูมากทีเดียวซึ่งความพยายามนั้นอาจจะคุ้มค่าเมื่อเรื่องนี้พาเราไปสำรวจความคิดของใครสักคน ความคิดที่อยากจะเลิกอะไรบางอย่างพูดถึงการจินตนาการที่เกินจริงสิ่งที่เราอาจกำลังคิดอยู่ในทุกๆ วัน ใน I’m Thinking of Ending Things คนดูจะได้ยินเสียงความคิดของหญิงสาว (แสดงโดย เจสซี บักลีย์) อยู่บ่อยๆคำพูดว่า “ฉันคิดว่าจะเลิก” ก็เป็นเธอเองที่พูดย้ำ ตัวหนังนำเสนอหญิงสาวราวกับว่าเธอคือตัวเอก แต่พอเรื่องดำเนินไปทุกอย่างกลับดูเลือนลางไปหมด ชื่อของหญิงสาวถูกเรียกไม่เคยซ้ำกันตั้งแต่ลูซียันลูเซีย อาชีพที่ทำก็ไม่แน่นอน บางครั้งนักฟิสิกส์ บางครั้งนักกวี บางทีศิลปิน คำพูดของเธอส่วนใหญ่ยังหยิบยืมมาจากแหล่งอื่นไม่ว่าจะหนังสือหรือจนเรียกได้ว่ารับสารแทบไม่ทัน ทั้งคำพูดของในบางคน ผลงานศิลปะ ภาพยนตร์ งานวิจัย เพลง บทกวี บทความ เป็นไปได้ว่าทุกอย่างล้วนเป็นสิ่งที่ภารโรงแก่เสพและรับรู้มาตลอดทั้งชีวิต ขมวดรวมมาอยู่ในความคิดของเขาในการเดินทางของเจคและหญิงสาว ทุกฉากทุกคำพูดถูกดึงมาจากความทรงจําแต่ก็ไม่ใช่แค่ความทรงจำ บางอย่างอาจถูกสร้างขึ้นมาใหม่เป็นจินตนาการที่ภารโรงแก่หวังให้เกิดขึ้นจริง ชิ้นหนึ่งที่เห็นชัดที่สุดคือซีนที่เจคขึ้นรับรางวัลโนเบล ทุกคนที่เจครู้จักมาร่วมแสดงความยินดีกับเขาในงาน เจคประกาศความสำเร็จของตัวเอง เป็นภาพที่สวยงามแตกต่างจากภาพของภารโรงแก่ที่คอยถูพื้นโรงเรียนอย่างเงียบเหงายามค่ำคืนคำพูดว่า “ฉันคิดว่าจะเลิก” ใน I’m Thinking of EndingThings อาจจะไม่ได้หมายถึงการที่หญิงสาวคิดจะเลิกคบกับเจคเพียงอย่างเดียว ถ้าในเมื่อหญิงสาวคือภาพสะท้อนความคิดของภารโรงแก่ คำว่า “ฉันคิดว่าจะเลิก” ที่หญิงสาวย้ำซ้ำๆอาจเป็นคำพูดที่ภารโรงแก่อยากเตือนสติตัวเองให้เลิกจินตนาการเพ้อฝันเสียทีเพราะในตอนจบของเรื่อง สุดท้ายก็เป็นความคิดของภารโรงแก่นี่แหละที่คอยหลอกหลอนและกัดกินตัวเข้าเอง เหมือนกับหมูในฟาร์มที่ถูกหนอนชอนไชจนตายอย่างช้า ซึ่งเป็นเรื่องที่เจคเล่าให้หญิงสาวฟังระหว่างพาเยี่ยมชมฟาร์ม ดูหนังฟรี